เวลา 14.30 น. วันที่ 29 ม.ค. ที่บริเวณโถงรับแขก ชั้น 11 โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ นักร้อง นักแสดง พระเอกลิเกชื่อดัง เอ-ไชยา มิตรชัย หรือ นายเสมา สมบูรณ์ วัย 42 ปี ที่เข้ารับการรักษาตัวจากอาการไข้หวัดใหญ่ และ ปอดด้านขวาติดเชื้อ โดยวันนี้ ลิเกคนดัง ไชยา มิตรชัย แถลงข่าวอาการป่วยว่า
“สำหรับอาการป่วยครั้งนี้ จริงๆ เริ่มป่วยหนัก ตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค. เป็นต้นมา โดยเมื่อวันที่ 18 ม.ค. ตนได้ไปแสดงลิเก แต่ก่อนที่จะไป มันมีงานมาต่อเนื่อง และโดนฝนด้วย ซึ่งตรงบริเวณนั้น เป็นโรงโม่หินมีฝุ่นละออง และฝนตกลงมา จึงทำให้มีผลกับเราด้วย แล้วพอช่วงเช้าของวันต่อมา เราก็มีถ่ายรายการ พอถ่ายเสร็จแล้วรู้สึก ตัวรุมๆ ทีมงานเห็นสภาพตอนถ่าย เราก็ทำงานเต็มที่ แต่พอถ่ายเสร็จเรารู้สึกไม่ไหว พอดีมีคลินิกของสมิติเวชอยู่แถวนั้น เราก็เลยแวะเข้าไป
“ถือเป็นวันแรกที่ได้เจอแพทย์ มีการตรวจ เราเป็นไข้ตัวร้อนมาก วัดปรอทแล้วได้ 38 องศา เพราะไข้เริ่มขึ้น ก็จับเช็คว่าเป็นไข้เลือดออกหรือเปล่า และเป็นไข้หวัดใหญ่หรือเปล่า แต่ด้วยเวลาของเราในวันนั้น ที่เราต้องรีบไปแสดงลิเกต่อ ก็เลยยังไม่ได้ฉีดยาใดๆเลยทั้งสิ้น โดยทั้งหมอบอกว่ายังไม่อยากฉีดให้ จึงให้ยามาทานก่อน เพื่อบรรเทาอาการไข้ หลังจากนั้นก็ทานแต่ยามาตลอด พอกลับมาบ้าน หลังจากทานยา อาการไข้ก็ลดลง”
“ประกอบกับเราเป็นคนที่สู้ ตัดใจลุกขึ้นจากเตียง มันก็ทำให้เรารู้สึกดีขึ้น เพราะกำลังใจเราดี แต่พอเที่ยงคืนของทุกวันอาการก็จะกลับมา จนมีอีกรายการหนึ่ง ที่เราต้องทำ ไม่สามารถแคนเซิลได้ เราก็เลยไปถ่าย แต่วันนั้นรายการเป็น ธีมงานวัด และมีฝนมีลมมา เราเลยเจอทั้งฝนเต็มๆ สุดท้ายดูอาการแล้วว่าไม่ไหว เลยเข้าที่โรงพยาบาลราชธานีที่จังหวัดอยุธยา ไปทั้งๆ เสื้อผ้ายังไม่ได้ถอด ทุกคนเลยคิดว่ามาหาหมอจัดเต็มมาเลย (หัวเราะ)”
“ทีแรกกะจะเดินเข้าห้องฉุกเฉินเองแต่พอก้าวขาแล้วรู้สึกไม่ไหว เขาเลยเอารถเข็นมารับ เพราะหน้ามืด ไข้ขึ้น หมอจึงทำการเช็ก และตรวจเลือดเลยทันที เพื่อหาสาเหตุว่าเป็นอะไรในวันแรก ตรวจเสร็จแล้วแต่ยังไม่มีการเอ็กซเรย์ แต่แอดมิดเลย เพราะถ้ากลับบ้านไม่รอดแน่ หมอก็ตรวจเรื่องไข้เลือดออกเป็นอันดับแรก แล้วก็พูดถึงเรื่องเป็นไข้ฉี่หนูหรือเปล่า
วันรุ่งขึ้นจึงพาไปเอ็กซเรย์ปอดบวม ปรากฏว่าปอดข้างขวาบวม และมีอาการเริ่มติดเชื้อ ทำให้เกิดการวิตกกังวลขึ้น สุดท้ายที่นอนรักษาอยู่ที่นั่น คุณหมอก็เต็มที่เหมือนกัน แต่ด้วยความที่เป็นห่วงของคุณพ่อคุณแม่และแฟนๆ ก็เลยย้ายมาที่โรงพยาบาลนี้ เพราะญาติๆ จะได้เยี่ยมกันง่ายด้วย”
“ผมขอขอบพระคุณมากที่หลายๆคน ให้ความรักและเมตตาผม เป็นห่วงและดูแลไชยา มิตรชัย มาโดยตลอด เพราะจริงๆ ผมเป็นคนที่ดื้อจริงๆ เมื่อวาน (28 ม.ค.) มีอีก 1 รายการ ที่ต้องไป ก็อยากจะแอบไป เพราะเราไม่อยากให้งานเสีย แต่ไปไม่ได้ เพราะคุณหมอบังคับ เพราะเรามีอาการติดเชื้อที่ปอดข้างขวา แต่วันนี้ ผมคิดว่าร่างกายผมแข็งแรงพร้อมแล้วเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว จึงขออนุญาตคุณหมอกลับ”
“กลับไปวันนี้ ก็จะไปพักที่บ้าน คุณหมอกำชับไว้ว่า ถ้ากลับไปวันนี้ แล้วมีอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการแย่ลง ให้รีบกลับเข้ามาทำการตรวจ เพราะพรุ่งนี้ผมมีรายการที่ไม่สามารถแคนเซิลได้จริงๆ ทางรายการบอกว่าไม่ต้องไปก็ได้ แต่ผมเป็นห่วงลูกศิษย์(มาสเตอร์คีย์เวทีแจ้งเกิด) ไปพรุ่งนี้อาจจะไม่ต้องคอมเมนต์อะไรมาก แต่แค่ไปให้กำลังใจลูกศิษย์ และพรุ่งนี้ก็มีงานลิเกที่ไม่สามารถเลื่อนได้ จึงต้องไปเล่น หมอก็กำชับอย่างดี
ตอนนี้ก็กินยาฆ่าเชื้ออย่างต่อเนื่อง กลัวว่าเราจะไปรับเชื้ออย่างอื่นเข้ามาอีก แต่ผมก็มั่นใจในตัวเองว่าดีขึ้นเยอะแล้ว แต่ยังรู้สึกว่ามีอาการไออยู่ ซึ่งเป็นอาการที่คนรอบข้างเป็นห่วง จริงๆคุณหมอจะฉีดยาระงับการไอให้ตอนอยู่โรงพยาบาล เพราะถ้าเราไอเส้นเสียงเราจะแย่มากๆ แต่ตอนนี้ก็ได้ยาแก้ไอไปทาน เพื่อระงับอาการ”
“การป่วยครั้งนี้ก็ทำให้คนรอบข้างตกใจมาก เพราะปกติผมเป็นคนที่สู้มาก ไม่ยอมเข้าโรงพยาบาลง่ายๆ แต่เดี๋ยวอาทิตย์หน้า ก็ต้องกลับเข้ามาโรงพยาบาลอีกเพื่อเอ็กซเรย์ซ้ำ เพื่อดูให้แน่ใจ และยังต้องให้วัคซีนอะไรอีกหลายตัว ผมว่าตอนนี้หลายๆ คนที่ป่วย อย่าเพิกเฉยกับร่างกายและสุขภาพ เพราะช่วงนี้โลกที่เราไม่คาดฝันมันเข้ามาได้ง่าย อย่างตัวผมเองเคยท้าทายตัวเองเวลากลับไปอาบน้ำตัวร้อนๆ เปิดน้ำเย็นอาบเลยคิดว่า ฉันไม่เป็นหรอก ปอดบวมเคยผ่านมาได้แล้ว
“พอเจอเข้าจริงๆ แล้ว เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า เราเป็นปอดบวม ถ้าเราไม่ได้เอกซเรย์ เราเป็นมานานแล้ว แต่เราไม่รู้ตัว มันเลยติดเชื้อได้ง่าย และถ้ามันติดเชื้อไปที่ปอด ถ้ามาโรงพยาบาลไม่ทัน ก็คงแย่ นี่ถือเป็นโชคดีของผมอีกอย่างหนึ่งที่รู้ทันต้นเหตุ และมาแก้ไขได้ทัน ถ้ามาไม่ทัน ก็ยังไม่รู้ว่าจะมีอาการอะไรแทรกซ้อนขึ้นมา แต่สำหรับการรับงาน หลังจากนี้ ก็คงไม่ได้รับน้อยลง ยังรับเหมือนเดิม แต่จะดูแลตัวเองให้ดีมาก ถ้ามีอาการอะไรที่ไม่ไหวตรงไหน ที่พอจะผ่อนผันได้ก็จะทำ”
“วันนี้ผมขอขอบคุณพี่ๆสื่อมวลชนทุกท่าน รวมถึงพ่อแม่พี่น้องจากหลายๆ สถานที่ ที่โทรศัพท์เข้ามาเป็นห่วงเป็นใยกัน ตรงนี้ คือ ยาดี และ เป็นยาใจให้กับไชยา มิตรชัย มาโดยตลอด ขอขอบพระคุณจากใจจริงๆ นะครับ และจะไม่ทำให้ทุกคนอกสั่นขวัญแขวนแบบนี้อีกแล้วครับ และที่ขาดไม่ได้ขอขอบคุณ คุณหมออัษฎา และ คุณหมอภิญโญ ที่ดูแลผมเป็นอย่างดีขอบคุณครับ”
