T: เอาแล้วไง!! ล่าสุด "เณรแอ" จอมขมังเวทย์ ออกมาเผยเลี้ยง "ตุ๊กตาลูกเทพ" ให้โทษ พูดมาแบบนี้ทำเอาขนลุกกันไปทั่ว!!
เผย”เณรแอ”ให้ข้อมูลทำ”กุมารพราย”คือผีตายโหง มีโทษมากกว่าให้คุณ ขณะที่สำนักไสยศาสตร์ยัน”ตุ๊กตาลูกเทพ”คือ”กุมารทองสายแบ๊ว”ทำจากวัตถุดิบ ชวนขนลุก ด้าน “เจน ญาณทิพย์”เตือนเลี้ยง”ตุ๊กตาลูกเทพ”คือเลี้ยงผีมีแต่โทษ
กรณี นักวิชาการ ตลอดจนพระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงหลายท่าน ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับการเลี้ยงตุ๊กตาลูกเทพ ว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล สามารถทำได้ แต่ไม่ควรจะหมกมุ่น หรือให้ความสำคัญถึงขนาดต้องพูดคุยกับตุ๊กตา หรือ พาตุ๊กตาไปเบิกเนตรลงอัขระพิธีให้วุ่นวาย ขณะที่ผลโพลของสถาบันการศึกษาชื่อดังต่างให้ความเห็นว่าไม่ควรให้ความสำคัญ โดยเฉพาะภาคเอกชนธุรกิจต่าง ๆ เพราะเป็นการลิเมิดสิทธ์ของผู้อื่น และเสื่อมเสียภาพลักษณ์ ขณะเดียวกันมีสำนักไสยศาสตร์บางสำนักเริ่มพัฒนาการปลุกเสก “ตุ๊กตาลูกเทพ” ด้วยการนำกระดูกคนตาย ดิน 7 ป่าช้า ตะปูตอกฝาโลงศพ ผ้าห่อศพ ขี้เถ้าเชิงตะกอน มาปลุกเสกยัดใส่ในตัวตุ๊กตาลูกเทพ เพื่อเพิ่มความขลังเพื่อให้น่าเกรงขาม ดังที่ปรากฏเป็นข่าวมาแล้วนั้น
ความ คืบหน้า เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวของสำนักไสยศาสตร์ชื่อดังรายหนึ่ง ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการพัฒนามาจาก “การปลุกเสกกุมารทอง” โดยกุมารทอง มาจากวิญญาณของเด็กที่ตายในท้องแม่ หรือเรียกว่า “ตายทั้งกลม” ผู้มีวิชาอาคมจะประกอบพิธีกรรมนำวิญญาณเด็กนั้นมาเลี้ยงไว้เป็นลูก แต่ในปัจจุบันกุมารทองพัฒนาไปตามกระแสกลายเป็น “กุมารทองสายแบ๊ว” โดยนำเอาตุ๊กตาจากต่างประเทศที่มีหน้าตาใกล้เคียงคน มาปลุกเสกลงอักขระจำหน่ายผ่านสื่อออนไลน์ให้กับผู้สนใจด้านไสยศาสตร์ พร้อมระบุสรรพคุณต่างๆเน้นเมตตามหานิยมนั่นเอง
อย่างไรก็ตามใน ประเด็นเรื่องกุมารทองที่เคยเป็นข่าวครึกโครมนั้น คงไม่พ้นนายหาญ รักษาจิตร์ หรือเณรแอ จอมขมังเวทย์ ผู้โด่งดังในตำนานการสร้างกุมารทอง ซึ่งนายหาญ เคยให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนไว้ว่า กุมารทอง มี 2 ประเภท คือกุมารพราย และกุมารเทพ โดยกุมารพรายเป็นภูติผีตายโหง ผีไร้ญาติ ผีเร่ร่อน มีลักษณะนิสัยแตกต่างกัน เมื่อวิญญาณถูกบังคับให้เป็นกุมารทองจะควบคุมยาก ไม่ให้คุณกับผู้เลี้ยงตามความเชื่อ แถมยังให้โทษ และเป็นบาปกับผู้เลี้ยงอีกด้วย ส่วนกุมารเทพถือเป็นวิญญาณที่มีบุญเป็นเทวดากึ่งผี หากใครได้ไปบูชาจะมีคุณ เพราะเป็นดวงจิตที่รอจะไปเกิดเป็นเทพ รอสั่งสมบารมีเพื่อไปใช้ในภพภูมิที่ดี
เช่น เดียวกับ “เจน ญาณทิพย์” หมอดูชื่อดังเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า จะส่งผลร้ายทำให้คนที่ครอบครองเจ็บป่วย ยิ่งถ้ามีการใส่เล็บผม ฟัน ของคนตายไป หรือกระทั่งเอาดวงเรา เอาเส้นผม เล็บของส่วนตัวใส่ไปก็อันตราย เพราะในกรณีที่เป็นคนตายที่วิญญาณไม่รับรู้ มันมีวิญญาณบางดวงที่ยึดติดกับร่างและสังขารยังหวงแหน อาจจะมีความโกรธ จะทำให้วิญญาณไปสิงสถิตกับสิ่งเหล่านี้ คนที่ซื้อไปจะถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายวิญญาณที่ยึดติดกับสังขาร ทำให้ดวงไม่ดี ส่วนดาราที่เห็นเขาถือแล้วร่ำรวยก็คือผลบุญกุศลที่ทำมาแต่อดีตชาติ หรือปัจจุบันก็ดี แต่พอบุญหมด หรือว่าดวงตกเมื่อไหร่สิ่งเหล่านี้ก็จะให้ผล
เจน ญาณทิพย์ ยังกล่าวย้ำว่า ที่บอกว่าเป็นเทพ บอกเลยว่าเทพไม่มาสิงสู่สิ่งเหล่านี้ เทพจะไม่ยุ่งกับมนุษย์เด็ดขาด เพราะมนุษยมีกลิ่นสาป มนุษย์ตัวเหม็น มนุษย์ไม่มีศีล คนที่ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่มีความโลภ อยากรวย อยากมีชื่อเสียงก็จะตกเป็นเหยื่อตุ๊กตา ที่ว่าไม่มีประโยชน์เลยแม้แต่นิดเดียว มีแต่ผลเสียเป็นโทษ 1.เสียเงิน 2.เรางมงาย และ 3.แทนที่เราจะอยู่อย่างมีความสุขกลับมีผีมาอยู่ด้วย ต้องเข้าใจด้วยว่าผีหรือวิญญาณมันมีความหลากหลายมีทั้งดีและไม่ดี ถ้าเจอผีไม่ดี อยากให้มนุษย์ยกยอปอปั้นเขาอยู่แล้ว วิญญาณก็จะเห่อเหิม เวลาไปบูชา ไปแบ่งบุญให้ ไปเลี้ยงดูเหมือนลูก วิญญาณร้ายเหล่านีก็จะเข้าสิงสู่ตุ๊กตาจริง ๆ อย่างที่เราเรียกกันว่า “ตุ๊กตาผี” แทนที่เราจะไว้พระกลับไปไหว้ผี ก็อันตราย อุ้มตุ๊กตาแล้วพูด บางครั้งมันสามารถสื่อให้วิญญาณมิจฉาทิฐิเข้ามาสิงสู่เหมือนกับตุ๊กตากุมาร พอเข้ามาอยู่มนุษย์เหล่านั้นก็จะเจ็บป่วยและมีผีตาม สิ่งเหล่านี้มันไม่ใช่สิ่งดี แล้วราคาก็แพง น่าสงสารการสร้างกระแส “อยากจะมี” ก็เป็นหนี้เป็นสินกันเพราะความโลภ ที่อยากได้เอามาไว้ครอบครอง เพื่อต้องการร่ำรวยแบบผิด ๆ.
เผย”เณรแอ”ให้ข้อมูลทำ”กุมารพราย”คือผีตายโหง มีโทษมากกว่าให้คุณ ขณะที่สำนักไสยศาสตร์ยัน”ตุ๊กตาลูกเทพ”คือ”กุมารทองสายแบ๊ว”ทำจากวัตถุดิบ ชวนขนลุก ด้าน “เจน ญาณทิพย์”เตือนเลี้ยง”ตุ๊กตาลูกเทพ”คือเลี้ยงผีมีแต่โทษ
กรณี นักวิชาการ ตลอดจนพระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงหลายท่าน ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับการเลี้ยงตุ๊กตาลูกเทพ ว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล สามารถทำได้ แต่ไม่ควรจะหมกมุ่น หรือให้ความสำคัญถึงขนาดต้องพูดคุยกับตุ๊กตา หรือ พาตุ๊กตาไปเบิกเนตรลงอัขระพิธีให้วุ่นวาย ขณะที่ผลโพลของสถาบันการศึกษาชื่อดังต่างให้ความเห็นว่าไม่ควรให้ความสำคัญ โดยเฉพาะภาคเอกชนธุรกิจต่าง ๆ เพราะเป็นการลิเมิดสิทธ์ของผู้อื่น และเสื่อมเสียภาพลักษณ์ ขณะเดียวกันมีสำนักไสยศาสตร์บางสำนักเริ่มพัฒนาการปลุกเสก “ตุ๊กตาลูกเทพ” ด้วยการนำกระดูกคนตาย ดิน 7 ป่าช้า ตะปูตอกฝาโลงศพ ผ้าห่อศพ ขี้เถ้าเชิงตะกอน มาปลุกเสกยัดใส่ในตัวตุ๊กตาลูกเทพ เพื่อเพิ่มความขลังเพื่อให้น่าเกรงขาม ดังที่ปรากฏเป็นข่าวมาแล้วนั้น
ความ คืบหน้า เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวของสำนักไสยศาสตร์ชื่อดังรายหนึ่ง ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการพัฒนามาจาก “การปลุกเสกกุมารทอง” โดยกุมารทอง มาจากวิญญาณของเด็กที่ตายในท้องแม่ หรือเรียกว่า “ตายทั้งกลม” ผู้มีวิชาอาคมจะประกอบพิธีกรรมนำวิญญาณเด็กนั้นมาเลี้ยงไว้เป็นลูก แต่ในปัจจุบันกุมารทองพัฒนาไปตามกระแสกลายเป็น “กุมารทองสายแบ๊ว” โดยนำเอาตุ๊กตาจากต่างประเทศที่มีหน้าตาใกล้เคียงคน มาปลุกเสกลงอักขระจำหน่ายผ่านสื่อออนไลน์ให้กับผู้สนใจด้านไสยศาสตร์ พร้อมระบุสรรพคุณต่างๆเน้นเมตตามหานิยมนั่นเอง
อย่างไรก็ตามใน ประเด็นเรื่องกุมารทองที่เคยเป็นข่าวครึกโครมนั้น คงไม่พ้นนายหาญ รักษาจิตร์ หรือเณรแอ จอมขมังเวทย์ ผู้โด่งดังในตำนานการสร้างกุมารทอง ซึ่งนายหาญ เคยให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนไว้ว่า กุมารทอง มี 2 ประเภท คือกุมารพราย และกุมารเทพ โดยกุมารพรายเป็นภูติผีตายโหง ผีไร้ญาติ ผีเร่ร่อน มีลักษณะนิสัยแตกต่างกัน เมื่อวิญญาณถูกบังคับให้เป็นกุมารทองจะควบคุมยาก ไม่ให้คุณกับผู้เลี้ยงตามความเชื่อ แถมยังให้โทษ และเป็นบาปกับผู้เลี้ยงอีกด้วย ส่วนกุมารเทพถือเป็นวิญญาณที่มีบุญเป็นเทวดากึ่งผี หากใครได้ไปบูชาจะมีคุณ เพราะเป็นดวงจิตที่รอจะไปเกิดเป็นเทพ รอสั่งสมบารมีเพื่อไปใช้ในภพภูมิที่ดี
เช่น เดียวกับ “เจน ญาณทิพย์” หมอดูชื่อดังเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า จะส่งผลร้ายทำให้คนที่ครอบครองเจ็บป่วย ยิ่งถ้ามีการใส่เล็บผม ฟัน ของคนตายไป หรือกระทั่งเอาดวงเรา เอาเส้นผม เล็บของส่วนตัวใส่ไปก็อันตราย เพราะในกรณีที่เป็นคนตายที่วิญญาณไม่รับรู้ มันมีวิญญาณบางดวงที่ยึดติดกับร่างและสังขารยังหวงแหน อาจจะมีความโกรธ จะทำให้วิญญาณไปสิงสถิตกับสิ่งเหล่านี้ คนที่ซื้อไปจะถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายวิญญาณที่ยึดติดกับสังขาร ทำให้ดวงไม่ดี ส่วนดาราที่เห็นเขาถือแล้วร่ำรวยก็คือผลบุญกุศลที่ทำมาแต่อดีตชาติ หรือปัจจุบันก็ดี แต่พอบุญหมด หรือว่าดวงตกเมื่อไหร่สิ่งเหล่านี้ก็จะให้ผล
เจน ญาณทิพย์ ยังกล่าวย้ำว่า ที่บอกว่าเป็นเทพ บอกเลยว่าเทพไม่มาสิงสู่สิ่งเหล่านี้ เทพจะไม่ยุ่งกับมนุษย์เด็ดขาด เพราะมนุษยมีกลิ่นสาป มนุษย์ตัวเหม็น มนุษย์ไม่มีศีล คนที่ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่มีความโลภ อยากรวย อยากมีชื่อเสียงก็จะตกเป็นเหยื่อตุ๊กตา ที่ว่าไม่มีประโยชน์เลยแม้แต่นิดเดียว มีแต่ผลเสียเป็นโทษ 1.เสียเงิน 2.เรางมงาย และ 3.แทนที่เราจะอยู่อย่างมีความสุขกลับมีผีมาอยู่ด้วย ต้องเข้าใจด้วยว่าผีหรือวิญญาณมันมีความหลากหลายมีทั้งดีและไม่ดี ถ้าเจอผีไม่ดี อยากให้มนุษย์ยกยอปอปั้นเขาอยู่แล้ว วิญญาณก็จะเห่อเหิม เวลาไปบูชา ไปแบ่งบุญให้ ไปเลี้ยงดูเหมือนลูก วิญญาณร้ายเหล่านีก็จะเข้าสิงสู่ตุ๊กตาจริง ๆ อย่างที่เราเรียกกันว่า “ตุ๊กตาผี” แทนที่เราจะไว้พระกลับไปไหว้ผี ก็อันตราย อุ้มตุ๊กตาแล้วพูด บางครั้งมันสามารถสื่อให้วิญญาณมิจฉาทิฐิเข้ามาสิงสู่เหมือนกับตุ๊กตากุมาร พอเข้ามาอยู่มนุษย์เหล่านั้นก็จะเจ็บป่วยและมีผีตาม สิ่งเหล่านี้มันไม่ใช่สิ่งดี แล้วราคาก็แพง น่าสงสารการสร้างกระแส “อยากจะมี” ก็เป็นหนี้เป็นสินกันเพราะความโลภ ที่อยากได้เอามาไว้ครอบครอง เพื่อต้องการร่ำรวยแบบผิด ๆ.